วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

อุปสรรคของธุรกิจ

อุปสรรค 1. เป็นธุรกิจที่ลงทุนไม่มากทำให้สามารถมีผู้ผลิตรายใหม่เพิ่มขึ้นในตลาดได้เรื่อยๆ 2. สินค้าสามารถเลียนแบบได้ง่าย 3. วัตถุดิบมีราคาสูงเพราะมีความเป็นเอกลักษณ์ในการผลิต 4. การแข่งขันในตลาดมีมากขึ้น

โอกาสของธุรกิจ

โอกาส 1. ผู้บริหารเป็นที่รู้จักของสังคม เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทางด้านการประกอบธุรกิจ 2. ราคาของสินค้าต่ำกว่าราคาสินค้าของคู่แข่งรายอื่น 3. ปัจจุบันตลาดให้ความสนใจกับการบริโภคสินค้า Organic 4. การขยายตัวของธุรกิจเกี่ยวกับชาเขียวมีเติบโตขึ้นมากในปัจจุบันทั้งการผลิตและการบริโภค

จุดอ่อนของธุรกิจ

จุดอ่อน 1. ปัจจุบันตลาดเริ่มมีการผลิตสินค้าประเภทชาเขียวมากขึ้นทำให้มีคู่แข่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น 2. การผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ 3. ขาดแคลนแรงงานในการประกอบการผลิต

จุดแข็งของธุรกิจ

จุดแข็ง 1. ผู้บริหารมีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ และเคยประกอบกิจการมาอย่างยาวนาน 2. มีเงินทุนที่เป็นทุนเดิมของผู้ประกอบการเองจึงไม่มีปัญหาเรื่องหนี้สิน 3. กำไรจากการขายสินค้ามีมาก 4. สินค้าสามารถผลิตให้มีความหลากหลายได้มากกว่าที่มีอยู่ 5. เป็นธุรกิจที่ลงทุนน้อยได้รับผลกำไรมาก 6. มีตลาดที่กว้างเพราะสินค้าสามารถบริโภคได้ในทุกเพศทุกวัย 7. มีแหล่งวัตถุดิบที่ดีในการทำไปประกอบการผลิต

ภาพรวมของแผนธุรกิจ

บริษัทอิชิตัน กรุ๊ปจำกัด
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขายจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทั้งหมดอยู่ที่ 6 พันล้านบาท ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์อย่างน้อย 1.5 พันล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 4.5 พันล้านบาท โดยส่วนหนึ่งมาจากความสำเร็จจากแคมเปญ
การตลาดต่างๆ โดยที่ผ่านมามีการส่งชิ้นส่วนเข้าร่วมโครงการมากกว่าเป้าหมายถึง 30% และส่วนหนึ่งมาจากยอดขายจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในแบรนด์เย็นๆ ซึ่งเป็นน้ำจับเลี้ยง ที่คาดว่าสิ้นปีจะมียอดขายสูงกว่าเป้าที่วางไว้ถึง 2 เท่า หรือที่ประมาณ 1.4 พันล้านบาท ส่วนแคมเปญล่าสุดที่บริษัทได้เปิดไปนั้น คาดว่าจะสร้างยอดขายได้อย่างน้อย 1.5 พันล้านบาท
ด้านส่วนแบ่งการตลาดขณะนี้ อิชิตันขึ้นเป็นอันดับ 1 ของตลาด (ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน) โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 44% อันดับ 2 โออิชิ 37% อันดับ 3 เพียวริขุ 14% โดยมูลค่าตลาดรวมเครื่องดื่มชาในปีนี้คาดว่าจะเติบโตที่ 25% โดยมีมูลค่า 1.65 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 1.3 หมื่นล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีการเจรจาที่จะส่งออกเครื่องดื่มไปขายยังต่างประเทศ โดยจะเป็นประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC แต่จะเป็นการส่งออกไปยังประเทศใดก่อนนั้นจะเห็นความชัดเจนในช่วงต้นปีหน้า หรือหลังจากการเข้าตลาดหุ้นเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้น จะไม่ส่งผลต่อแผนการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัท โดยเดินหน้าตามแผนเดิมที่จะสามารถเข้าเทรดได้ในช่วงวันที่ 11-13 ธันวาคม เนื่องจากที่ผ่านมาปัญหาการเมืองในประเทศเกิดขึ้นมาตลอด และเชื่อว่าจะสามารถผ่านไปได้ ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจะสามารถระดมทุนได้จำนวน 3-5 พันล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะนำไปชำระหนี้ และขยายกำลังการผลิต รวมถึงการวางแผนในการเปิดตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม AEC ที่จะมีการเปิดอย่างเป็นทางการในช่วง 2 ปีข้างหน้า